ข้อพึงระวังสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า
รถยนต์แต่ละคันกว่าจะได้มาแสนยากลำบาก การบำรุงรักษาตลอดการใช้งานอาจจะยากกว่า และในบทความที่จะกล่าวถึงนี้ จะอยู่ในส่วนของการขับเคลื่อนนั่นก็คือ "เพลาขับ" ชิ้นส่วนดังกล่าวจะถูกติดตั้งอยู่ระหว่างชุดเกียร์กับล้อ การหมุนของเพลาขับจะเท่ากับการหมุนของล้อการทำงานถือว่าหนักมากและสำคัญมาก ซึ่งสาระสำคัญไม่เกี่ยวกับการหมุนของล้อแต่อย่างใด แต่จะกล่าวถึงในส่วนที่พึงระวังคือ "การเลี้ยวในวงแคบ" แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ? ในรถยนต์โตโยต้า มีด้วยกันหลายรุ่น นับตั้งแต่ ปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา
- CORONA
- COROLLA
- CAMRY
- VIOS
- SOLUNA
- YARIS
- CELICA
ใน การเลี้ยวหรือกลับรถในพื้นที่แคบ ผู้ขับขี่แต่ละท่านการขับขี่ไม่เหมือนกัน เช่น ช้าบ้าง-เร็วบ้าง หรือตีวงกว้าง-ตีวงแคบ แตกต่างกันไป แต่ในสภาพการจราจรที่แออัด จำเป็นที่จะต้องเร่งรีบ เลยทำให้ส่งผลถึงตัว "เพลาขับ" นั่นเอง
แล้วเกี่ยวกับเพลาขับตรงไหน ?
การที่เลี้ยวหรือกลับ รถในที่แคบแล้วไหนจะรีบอีก(คันหลังจะต่อว่าเอา) เลยทำให้รีบหักพวงมาลัย แล้วเร่งเครื่องอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุผลนี้เพลาขับ(ด้านติดล้อ) จะถูกหักเลี้ยวตามการเลี้ยว ลูกปืนที่หัวเพลาจะเกิดการบิดตัวภายในอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้เกิดการสึกหรอสูง ถ้ากระทำเช่นนี้บ่อยๆ จะทำให้หลวมคลอนเร็วกว่าการใช้งานปกติ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีเท่าไรต่อท่านเจ้าของรถ การซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยน จะมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นในการเลี้ยวแต่ละครั้งให้คำนึงถึงจุดนี้ด้วย
อีกจุดหนึ่งที่จะชำรุดก่อนก็คือ "ยางกันฝุ่นเพลาขับ" ตัวที่ติดล้อนั่นแหล่ะ ยางกันฝุ่นเป็นยาง ย่อมมีอายุการใช้งานเหมือนยางทั่ว ๆ ไป แต่ถ้ามีการเลี้ยวเหมือนข้อความข้างต้นก็จะทำให้ฉีกขาดเร็ว ในเมื่อฉีกขาดเร็วก็จะทำให้สารหล่อลื่น(จารบี) หลุดออกจากชุดลูกปืนหัวเพลา และเมื่อเป็นเช่นนี้ หัวเพลาจะได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน ดังนั้น เมื่อยางกันฝุ่นเพลาขับตัวใดตัวหนึ่งขาดให้รีบซ่อมโดยด่วน มิฉะนั้นจะส่งผลให้เพลาหลวมคลอนได้และเปลี่ยนในที่สุด
จะรู้ได้อย่างไรว่ายางกันฝุ่นเพลาขับชำรุด หรือฉีกขาด ?
โดย ทั่วไปแล้วยางกันฝุ่นเพลาขับตัวนอก(ด้านติดล้อ) จะขาดก่อน ให้สังเกตว่ามีคราบจารบีหรือสิ่งสกปรกติดอยู่ทางด้านในของล้อนั้นๆ แสดงว่าขาดแน่นอน แต่จะให้ชัวร์เลยก็ให้ก้มลงดูใต้ท้องรถก็จะทราบว่ามาจากจุดใด หรือให้ช่างผู้ชำนาญงานตรวจสอบก็จะดียิ่งขึ้น
วิธีใดที่ช่วยให้การใช้งานยาวนาน ?
- เลี้ยวรถหรือกลับรถด้วยความเร็วต่ำ
- ให้ตีวงเลี้ยวกว้าง(ถ้าเป็นไปได้)
- หลีกเลี่ยงการหักพวงมาลัยสุด หรือหักเลี้ยวสุดขณะรถเคลื่อนที่
- ตรวจสภาพยางกันฝุ่นเพลาขับสม่ำเสมอ(เริ่มชำรุดเปลี่ยนทันที)
- ตรวจสอบสารหล่อลื่น(จารบี) ในเพลาขับ อันนี้ตรวจสอบเองลำบาก คงให้ช่างตรวจสอบ
ข้อมูลจาก : แผนกเทคนิคและฝึกอบรม บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (กรุงเทพฯ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น